ได้แรงหนุนอีกแรงจากการที่ค่าเงินบาทอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 6 เดือนไปที่ 31.57 บาทต่อเหรียญสหรัฐไปแล้ว
ถึงแม้ราคา Bitcoin ในตลาดโลกยังคงเทรดอยู่ที่ 61,200 เหรียญ และยังไม่สามารถทุบสถิติ All Time High ที่ 61,484 เหรียญที่เคยทำไว้เมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมาแล้วได้
แต่มูลค่า Bitcoin ในสกุลเงินบาทของเราได้ทุบสถิติใหม่ไปที่ 2,000,000 บาทต่อ Bitcoin ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ววันนี้ หลังจากค่าเงินบาทอ่อนค่าขึ้นไปแตะระดับ 31.57 บาทต่อเหรียญสหรัฐแล้ว หรืออ่อนค่าที่สุดนับตั้งแต่เดือนตลาคมปี 2020 ที่ผ่านมา
แนวต้านนี้สำคัญมากเพราะจากกราฟที่แนบให้ในคอมเม้นท์เราจะเห็นได้ว่าตลอด 3 ปีที่ผ่านมาที่ราคา Bitcoin อยู่ในเทรนด์ขึ้น ทุกๆครั้งที่ราคา Bitcoin ทำสถิติ All Time High ใหม่จะมีแรงซื้อทางเทคนิคเทเข้ามาอีกครั้ง และยังคงทำ Higher High เป็นเทรนด์ขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แต่ผ่านมาหลายวันแล้วระดับแนวต้านนี้ก็ยังคงแข็งแกร่งมาก ต้องมาดูกันว่าฝั่งซื้อ (Bull) กับ ฝั่งขาย (Bear) ใครจะยอมแพ้ก่อนกัน
ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา Bitcoin ถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุดในบรรดาทุกๆสินทรัพย์ทั่วโลกแล้วขึ้นมาเกินกว่า 10,000 เท่า ทำให้เงินยังคงไหลเข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่อง มีนักลงทุนหน้าใหม่ไม่ว่าจะเป็นรายย่อย รายใหญ่ นักลงทุนสถาบัน หรือแม้แต่บริษัทชั้นนำต่างๆทั่วโลกก็เริ่มที่จะสนใจเข้ามาลงทุนในตลาด Bitcoin มากขึ้น
ทางเราได้เขียนบทความเรื่อง "นักลงทุนควรระวังให้ดี ! อย่าปล่อยให้หลุมดำ Bitcoin Black Hole มาดูดมูลค่าสินทรัพย์อื่นๆของคุณไป" (แนบในคอมเม้นท์) เพราะนักลงทุนทั่วโลกกำลังอยู่ในเทรนด์ที่อาจจะขายสินทรัพย์อื่นเพื่อโยกเงินเข้ามาในตลาด Bitcoin แทน
ในยุคที่นักลงทุนกำลังกลัวค่าเงินเฟ้อสูงขึ้นจากการอัดฉีดสภาพคล่องจากรัฐบาลทั่วโลก (ไม่ใช่แค่ในสหรัฐ) โดยปกติแล้วนักลงทุนทั่วโลกจะหันไปสู่ทองคำและถือไว้เป็นสินทรัพย์ที่จะมาลดความเสี่ยงของค่าเงินเฟ้อ แต่ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมานี้เรากำลังเห็นเทรนด์ที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆว่ารอบนี้เงินกำลังไหลเข้าสู่ Bitcoin แทนทองคำ
โดยจากกราฟที่แนบเราจะเห็นได้ว่าราคาทองคำกำลังปรับตัวลดลงเรื่อยๆ ในขณะที่ราคา Bitcoin ปรับตัวสูงขึ้น
เพียงในช่วงไม่ถึงเดือนที่ผ่านมา การยอมรับการใช้ของ Bitcoin กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เราเริ่มเห็นบริษัทต่างๆทั่วโลกเริ่มหันมาเปิดที่จะรับการซื้อสินค้าของพวกเขาด้วย Bitcoin เริ่มมีการเสนอการจ่ายค่าจ้างด้วย Bitcoin กันมากขึ้น โดยเฉพาะข่าวที่ใหญ่ที่สุดน่าจะเป็น Tesla บริษัทที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 7 ของโลกก็เพิ่งออกมาประกาศรับ Bitcoin ในการซื้อสินค้าของ Tesla ได้แล้วเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา
ยิ่งมีการเปิดให้ใช้ Bitcoin กันมากขึ้น ก็จะทำให้ราคา Bitcoin มีเสถียรภาพและอาจสร้าง Network Effect ได้มากขึ้นต่อไป
ไม่ว่าจะเป็น Goldman Sachs, JP Morgan, Morgan Stanley และอีกหลายๆบริษัทผู้ให้บริการทางการเงินระดับต้นๆของโลกกำลังเร่งที่จะออกสินค้ามาให้ลูกค้าของพวกเขาสามารถลงทุนใน Bitcoin ได้ โดยลูกค้าของบริษัทเหล่านี้ส่วนมากเป็นลูกค้าที่มีความั่งคั่งสูงและส่วนมากยังไม่ได้ลงทุนใน Bitcoin
หากช่องทางนี้เปิดขึ้นจะทำให้ยิ่งมีเงินไหลเข้ามาในตลาด Bitcoin มากขึ้น และอาจเป็นแรงพลักให้ Bitcoin ยิ่งกลายเป็นสินทรัพย์ที่คนส่วนใหญ่สนใจกันมากขึ้นไปอีกเป็นลูกโซ่ อย่างที่เราเห็นได้ว่าเมื่อไหร่ที่มีนักลงทุนชื่อดังเปลี่ยนผันตัวเองเข้ามาในตลาด Bitcoin พวกเขาจะสามารถช่วยดึงให้มีรายย่อยไหลตามพวกเขามาได้อีกด้วย
ตอนนี้เหล่า Alternative Coins ที่กำลังเป็นที่พูดถึงมากที่สุดคือ Binance Coin หรือ BNB ที่ราคาดีดขึ้นมาถึง 2 เท่าภายในเวลาไม่ถึง 1 เดือนที่ผ่านมา
และนอกจากนั้น Ethereum (ETH) เหรียญ Crypto ที่ใหญ่ที่สุดรองลงมาจาก Bitcoin ก็ได้ทำสถิติ All Time High ไปก่อน Bitcoin ก่อนหน้านี้ไปแล้วเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน
#NASAPP #NASVIP #TREAMMOTEE #หารายได้เสริม #เทรดหุ้น #สอนเทรดหุ้น #หางานออนไลน์ #หาเงินออนไลน์ #สายลงทุน #เทรดBitcoin #bitcoin #XAU #การเงิน #ภาษี #ปรึกษาธุรกิจ #หุ้น #กองทุน #วางแผนภาษี #เหรียญ #วางแผนมรดก
