วันพุธที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2564

⛔️[MUST READ]⛔️ 4 สิ่งที่สำคัญจากการประกาศงบ Tesla เมื่อวานนี้ #ที่สื่อไม่ได้พูดถึง แต่นักลงทุน Tesla ทุกท่านควรทราบไว้

 ⛔️[MUST READ]⛔️ 4 สิ่งที่สำคัญจากการประกาศงบ Tesla เมื่อวานนี้ #ที่สื่อไม่ได้พูดถึง แต่นักลงทุน Tesla ทุกท่านควรทราบไว้



เมื่อวานนี้ Tesla ได้รายงานผลประกอบการณ์ในไตรมาสที่ 1 ไป และประกาศออกมาได้ดีกว่าเป้าที่นักวิเคราะห์คาดไว้มาก (แต่ใครที่ติดตามเพจเรามาอาจไม่แปลกใจ เพราทางเราย้ำไว้ตลอดแล้ว ว่า Tesla จะโตเร็วกว่าเป้า 😅 )
📌 โดยตัวเลขสำคัญที่ทุกท่านอาจจะพอได้ยินมาบ้างแล้วคือ
1️⃣ Tesla ทำกำไรได้ไสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 1.37 หมื่นล้านบาท ในไตรมาสแรกของปี 2021 โตขึ้น 2.6 เท่าจากปีที่ผ่านมา
2️⃣ Tesla มีรายได้เติบโตเกือบ 2 เท่าจากปีที่แล้ว ! โตขึ้น +74% เพราะบริษัทสามารถลดต้นทุนการผลิตรถยนต์ลงได้
3️⃣ Tesla ส่งมอบรถยนต์ในไตรมาส 1 ได้ 184,877 คัน ทำสถิติสูงสุดตลอดการต่อไตรมาส
4️⃣ สรุปรายได้ของ Tesla ในไตรมาสนี้ หากแบ่งตามสัดส่วนธุรกิจจะได้มาจาก
4.1) ธุรกิจรถยนต์ 9,002 ล้านเหรียญสหรัฐ (87%)
4.2) ธุรกิจบริการและอื่น ๆ 893 ล้านเหรียญสหรัฐ (8%)
4.3) ธุรกิจสร้างและจัดเก็บพลังงาน 494 ล้านเหรียญสหรัฐ (5%)
5️⃣ และทาง Tesla ยังได้รายได้จากการขาย Carbon Credit (หรือเครติดการปล่อยมลพิษ) ให้บริษัทอื่นๆอีก 518 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์อีกเช่นเดียวกัน
ในจุดนี้ Tesla จะชอบถูกทุกฝ่ายโจมตีว่ารายได้นี้ไม่ได้เป็นรายได้ที่ได้มาจากการทำธุรกิจจริงๆ ซักวันนึงถ้าบริษัทอื่นๆเริ่มผลิตรถยนต์ EV กันแล้ว รายได้ส่วนนี้คงหายไป ?
แต่ดูจากที่เราเห็นแล้วรายได้ส่วนนี้ของ Tesla ยังคงโตขึ้นเรื่อยๆไม่ได้หายไปไหน และมันยังหมายความว่าบริษัทคู่แข่งอื่นๆไม่สามารถผลิตรถยนต์ EV ออกมาได้เร็วเท่าที่ขู่ไว้จริงๆ จึงยังต้องเข้ามาซื้อ Credit ส่วนนี้ไปจาก Tesla ไปเรื่อยๆ ทำให้เป็นการตอกย้ำว่า Tesla ยังไม่มีคู่แข่งในอนาคตอันใกล้อย่างแน่นอน
6️⃣ และแน่นอนว่า Tesla ยังได้รายได้จาดการขาย #Bitcoin ไปอีก 101 ล้านเหรียญสหรัฐ
ในส่วนนี้ทางเพจได้พูดถึงมาก่อนแล้ว ถึงแม้ว่าสื่ออื่นๆอาจจะโจมตีว่ารายได้ส่วนนี้ไม่ได้มาจากการทำธุรกิจจริงๆอีกเช่นกัน แต่สำหรับแอดแล้วมันแสดงให้เห็นถึงการ #มุมมองในอนาคตของผู้บริหาร Tesla ว่าพวกเขานั้นมองถึงอนาคตอันไกล พวกเขากล้าตัดสินใจ และกล้าที่เปลี่ยนแปลง
และสุดท้ายทาง Tesla ก็จะเป็นเสมือน #เสือติดปีก จากการที่บริษัทจะไม่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่องในการขยายบริษัทอีกต่อไป
--------------------------
📌 อย่างไรก็ตาม ยังมีอีก 4 เรื่องสำคัญที่ทาง Elon Musk ได้พูดไว้ในการประกาศงบ โดยทั้ง 4 ประเด็นนี้ #เป็นสิ่งที่ทำให้แอดต้องตะลึง และยิ่งเชื่อมั่นกับการเติบโตในระยะยาวของ Tesla มาขึ้นไปอีก
แอดยังแปลกใจว่าทำไมยังไม่มีสื่อไหนพูดถึง 4 ประเด็นนี้ แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ เพราะทางเราจะนำมาสรุปให้ทุกท่านทราบเอง
1️⃣ Elon Musk กล่าวว่ารถ Tesla Model Y จะกลายเป็น #รถยนต์ที่ขายดีที่สุดในโลก ภายใน 1-2 ปีนี้ !
เป็นคำสั้นๆที่ Elon พูดออกมา หากว่าไม่ตั้งใจฟังก็จะไม่มีทางได้ยินแน่ๆ แต่ Elon กล่าวแล้วว่าเขามองว่า Model Y ซึ่งเป็น SUV ขนาดเล็กของ Tesla จะกลายเป็นรถยนต์ที่มียอดขายสูงสุดในโลกเมื่อเทียบกับรถยนต์ทุกๆคัน ไม่ใช่แค่เพียงเทียบกับรถยนต์ EV นะครับ แต่กับรถทุกๆคันบนโลกนี้ !
ปัจจุบันรถยนต์ Tesla Model 3 นั้นก็กลายเป็นรถยนต์ EV ที่ขายดีที่สุดในโลกไปแล้ว แต่ยังห่างไกลเมื่อเที่ยบกับรถยนต์น้ำมัน อย่างไรก็ตามการประกาศของ Elon นั้นแปลว่าภายในปีหน้า Model Y นี้จะสามารถขายได้สูงกว่ารถยนต์น้ำมันอย่าง Toyota Corolla ที่ครองแชมป์นี้มาอย่างยาวนานกว่า 1.5 ล้านคันต่อปีได้ !
นั้นหมายความว่า Elon จะต้องมั่นใจกับการขยายการผลิตในโรงงาน Berlin และ Texas ของเขามากๆ เพราะมันเป็นเป้าที่สูงอย่างเหลือเชื่อมากๆจริงๆ
เมื่อปีที่แล้ว Tesla เพิ่งผลิตรถยนต์ได้รวม 5 แสนคันเท่านั้น ภายในปีหน้า Tesla จะผลิตรถยนต์ Model Y อย่างเดียวได้สูงถึง 1.5 ล้านคันเชียวหรือ ?!?!
ไม่ว่าจะจริงหรือไม่... เราก็รู้กันว่า Elon Musk ไม่เคยพลาดเป้าบ่อยนัก และเขาก็ชอบทำให้คนที่ไม่เชื่อในตัวเขาล้มหงายหลังมาหลายรายแล้ว.. ข้อมูลนี้จึงสำคัญมากและไม่ควรมีใคร #BetAgainstElonMusk ครับ
2️⃣ Elon Musk กล่าวว่าในยามที่โลกกำลัง #ประสบปัญหาชิปขาดแคลนทั่วโลก ทาง Tesla ได้เข้ากักตุนชิปเหล่านี้มาเป็นปีๆแล้ว !
เป็นอีกประโยคสั้นๆ ที่ถ้าใครเผลอหลับหรือไปเข้าห้องน้ำก็คงไม่มีทางได้ยินแน่ๆ แต่มันก็เป็นประโยคที่สำคัญมากๆ "Tesla มองเห็นปัญหาชิปล่วงหน้ามาเป็นปีๆแล้ว และได้เข้าติดต่อ Supplier และกักตุนชิปไว้เป็นปริมาณมาก เพื่อไม่ได้ประสบปัญหาในการผลิตรถยนต์"
สำหรับแอดแล้วจุดนี้ได้แสดงให้เห็นถึง #มุมมองในอนาคตอันกว้างไกลของผู้บริหาร Tesla อีกครั้ง ว่าพวกเขามั่นใจว่ารถยนต์ของเขาจะขายออกได้แน่ๆ และเขามองออกถึงปัญหาที่บริษัทรถยนต์อื่นๆยังมองไม่ออก พวกเขาจึงกล้าตัดสินใจที่จะเข้าซื้อชิป Semiconductor มาเผื่อไว้มาเป็นเวลานานแล้ว
การตัดสินใจและบริหารงานระดับนี้คือสิ่งที่แอดเชื่อว่า Tesla จะสามารถแก้ไขปัญหาในอนาคตได้เร็วกว่าบริษัทอื่นๆอย่างแน่นอน เมื่อไหร่ที่โลกเราเกิดเจอกับปัญหาที่ไม่คาดคิด (อย่าลืมว่าแม้แต่ช่วงโควิดระบาดทั่วโลก การเติบโตของ Tesla ก็ไม่โดนกระทบเลยแม้แต่น้อย)
3️⃣ Elon Musk ประกาศว่า Tesla Energy พร้อมแล้วที่จะทำให้ประชาชนทุกคนและบ้านทุกบ้าน #กลายเป็นโรงไฟฟ้าย่อมๆได้
นี่เป็นคำกล่าวที่น่าตื่นเต้นที่สุดใน 4 ข้อ เพราะขนาดธุรกิจพลังงานนั้นเป็นธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกและ Elon ก็ได้ออกมาประกาศว่า Disruption ของธุรกิจโรงไฟฟ้าทั่วโลกครั้งใหญ่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว !
เรื่องนี้ทางเพจได้เขียนบทความอย่างละเอียดไป และได้ปักหมุดไว้บนต้นเพจ ท่านใดสนใจลองเข้าไปอ่านดูได้เลยครับ แต่คร่าวคือ Elon ตั้งคำถาม ทำไมมนุษย์เราจำเป็นจะต้องพึ่งพาพลังงานจากศูนย์กลางอย่างโรงไฟฟ้าด้วย ?
ทำไมพวกเราทุกคนไม่ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์กันเอง ? เพื่อให้เราสามารถนำไฟมาใช้ในบ้าน นำไฟมาชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์
และทำไมเราทุกคนไม่มีแบตเตอรี่ไฟเก็บไว้ในทุกๆบ้าน ? เพื่อให้เมื่อเรายังมีไฟฟ้าส่วนเหลือเราก็ยังสามารถจัดเก็บไว้ได้ หรือนำกลับเข้าไปขายในระบบกลางให้บ้านอื่นๆใช้กันต่อ !
ทำให้ในการประกาศงบครั้งนี้ Elon ออกมาย้ำว่าระบบ Tesla Solar + Powerwall battery ตอนนี้พร้อมแล้วที่จะทำให้ระบบไฟฟ้าทั่วโลกกลายมาเป็นแบบ Decentralized ไม่ขึ้นอยู่กับโรงไฟฟ้า คล้ายๆกับการที่ Cryptocurrency เข้ามาทำให้ระบบการเงินของโลกกำลังจะกลายเป็น Decentralized มากขึ้นและไม่ต้องพึ่งพาคนกลางอีกต่อไป
4️⃣ Elon กล่าวว่าในระยะยาวทุกคนจะจำ Tesla ในฐานะที่เป็นบริษัท Artificial Intelligence (#AI) และบริษัท #Robotic (หุ่นยนต์) มากกว่าการเป็นบริษัทรถยนต์
ข้อนี้อาจจะเป็นข้อที่ยังห่างไกลจากปัจจุบันมากที่สุด แต่ก็สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ถือหุ้น Tesla ได้ไม่น้อย ที่ทาง Elon นั้นตั้งเป้าอย่างจริงจังว่า Tesla จะไม่หยุดที่จะเป็นเพียงแค่การเป็นบริษัทรถยนต์
Elon กล่าวว่าทาง Tesla ได้รวบรวมทีม AI ที่ดีที่สุดในโลกขึ้นมาทีมนึงแล้ว (ความหมายของเขาคือไม่แพ้ทีมที่ Google หรือ Microsoft เลยทีเดียว) และศึกแรกที่ทางทีมนี้จะต้องแก้ไขก็คือการพัฒนาระบบขับรถยนต์อัตโนมัติ (Autonomous Driving Level 5) และศึกที่ 2 คือการสร้าง Dojo หรือ Supercomputer ความเร็วสูงที่จะกลายมาเป็นคอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลกนั้นเอง !
ถ้า Tesla สามารถทำ 2 โครงการนี้สำเร็จ ทางเราเชื่อว่ามูลค่าของบริษัท Tesla ไม่ควรจะน้อยไปกว่า Apple, Google, Microsoft หรือควรมีมูลค่าสูงกว่าปัจจุบันอย่างน้อย 4-5 เท่าอย่างแน่นอน