วันศุกร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

📊: แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 🔺🔻

 แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 7 พฤษภาคม 2564

วิเคราะห์ทิศทางทองคำจากปัจจัยต่างๆ        

                👋ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ทำสถิติปิดเหนือเส้นสำคัญทางจิตวิทยาที่ระดับ 1,800 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

                👋นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร  NON- FARM ประจำเดือนเม.ย.ของสหรัฐซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันนี้ ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 1,000,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 5.8%

 👀 จับตาข่าวที่ส่งผลต่อทอง  : 

5:00pm     EUR ECB President Lagarde Speaks

6:15pm     GBP MPC Member Broadbent Speaks

7:30pm     CAD Employment Change

                    CAD Unemployment Rate

                    USD Average Hourly Earnings m/m

                    USD Non-Farm Employment Change

                    USD Unemployment Rate

8:00pm     USD FOMC Member Barkin Speaks

9:00pm     CAD Ivey PMI

XAUUSD  กราฟราย4H


วิเคราะห์มุมมองทองและแนวโน้ม:      เป็นขาขึ้น

                   จากกราฟ4H ราคากราฟกลับขึ้นมายืนเหนือนอกเส้นเทรนไลน์ขาลงได้อีกครั้ง โดยราคาทะลุแนวต้านที่ 1815 ได้ บ่งบอกถึงขาขึ้นระยะยาว จากแพทเทิน bull flag และมีแนวรับถัดไปที่ 1830  หากราคาขึ้นไปทดสอบที่แนวต้านนี้แล้วไม่ผ่าน จะเป็นการจบรอบขาขึ้นของ bull flag  แนะนำให้รอสัญญาณในการเข้าและหาจังหวะในการทำกำไร จากกรอบตามเทรนไลน์แนวรับแนวต้านณในการเข้าและหาจังหวะในการทำกำไร จากกรอบเทรนไลน์ และตามแนวรับแนวต้าน

   กลยุทธ์วันนี้     รอย่อแล้วบาย

                    RSI เป็นขาขึ้นและกำลังเข้าสู่โซน overbought

ทางเลือกในการลงทุน

เล่นตามแนวรับแนวต้านและกรอบเทรนไลน์

                    1. หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ   1815 เข้าซื้อ(buy ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ 1830 หรือตามแนวรับต้าน 

                    2.หากราคามีสัญญาณกลับตัวบริเวณ 1830 เข้าขาย(sell ) เป้าหมายกำไรอยู่ที่ราคา 1815 หรือตามแนวรับต้าน

แนวรับแนวต้านที่สำคัญ :

แนวต้าน     1830   1852

แนวรับ       1815  1798


วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

⚠️[BREAKING]⚠️ ปู่บัฟเฟตต์อาจเตรียมสละบัลลังก์ ! สุดยอดนักลงทุนวัย 90 ปีได้เลือกผู้ที่จะรับไม้ต่อจากเขาให้ดูแล Berkshire Hathaway ต่อไปแล้ว !

⚠️[BREAKING]⚠️ ปู่บัฟเฟตต์อาจเตรียมสละบัลลังก์ ! สุดยอดนักลงทุนวัย 90 ปีได้เลือกผู้ที่จะรับไม้ต่อจากเขาให้ดูแล Berkshire Hathaway ต่อไปแล้ว !
สำหรับผู้คนหลานแสนคนที่ได้เข้าร่วมฟังการประชุมประจำปีของ Berkshire Hathaway ในเมื่อวานนี้ มีคำถามนึงที่พวกเขามีในใจตลอดเวลาแน่ๆคือ
"ใครจะมาเป็น CEO ของ Berkshire Hathaway คนต่อไปหากปู่ Buffett ต้องวางมือ ?"
และพวกเขาก็ได้รับคำตอบจากคำถามที่ไม่ได้ตั้งใจจะเจาะลงไปถึงประเด็นนี้
"ด้วยการเปลี่ยนแปลงไปของตลาด ยิ่งวันการบริหารบริษัท Berkshire Hathaway จะยิ่งซับซ้อนขึ้นหรือไม่ ?" คำถามจากผู้ฟัง
"ไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนไป Greg Abel จะคงวัฒนธรรม (Culture) ของบริษัทเราไว้เหมือนเดิม" ทาง Charlie Munger คู่หูวัย 97 ปีของ Buffett ตอบ
ถึงแม้คู่หูทั้ง 2 จะยังไม่ได้บอกว่าจะกล่าวลาวงการในเร็วๆนี้ แต่ด้วยวัยของทั้งคู่ Buffett (90) และ Munger (97) ทำให้ทุกคนเชื่อว่าทั้งสองอาจจะวางมือลงในอีกไม่นาน
“ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นกับเราทั้งคู่ Greg จะเป็นคนรับช่วงต่อจากพวกเรา และบริษัท Berkshire Hathaway ก็จะยังคงเดินหน้าต่อไปเหมือนเดิมในเช้าวันต่อม" ทาง Buffett กล่าวเสริม
และทั้งคู่เชื่อที่ว่าบริษัทนี้จะยังคงเติบโตต่อไปด้วยวัฒนธรรมเดิมที่เขาทั้ง 2 ได้ร่วมสร้างกันไว้นานแสนนาน
📌 Greg Abel คือใคร ?
Gregory Edward Abel (อาเบล) วัย 57 ปี เป็นนักธุรกิจชาวแคนาดา ที่เริ่มต้นทำงานด้วยการเป็นนักบัญชีที่ Price Water House มาก่อน ก่อนที่จะย้ายไปทำงานที่บริษัทพลังงาน CalEnergy เมื่ออายุ 30 ปี
โดยในอีก 16 ปีต่อมาทาง Berkshire Hathaway ได้เข้าไปซื้อบริษัทนั้นและเปลี่ยนชื่อ Berkshire Hathaway Energy ซึ่งถือเป็นโชคของ Abel ที่กลายเป็นว่าได้เข้ามาทำงานภายใต้กลุ่มบริษัทของ Berkshire Hathaway ทันที
ต่อมาทาง Greg ก็ได้ทำงานไต่เต้าขึ้นมาในบริษัทเรื่อยๆ จนปัจจุบันเขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตำแหน่งรองประธานบริษัท ในกลุ่มธุรกิจที่ไม่ใช่ประกัน (Vice Chairman of Non-Insurance Businesses)
และล่าสุดได้รับการประกาศว่าจะกลายมาเป็นผู้คุมบังเหียนของบริษัทลงทุนที่มีชื่อเสียงยาวนานมากที่สุดในโลกต่อจาก Warren Buffett เป็นคนต่อไป
นับว่าเป็นภาระที่หนักอึ้งเลยทีเดียว !



วันพฤหัสบดีที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2564

⚠️[BREAKING]⚠️ ความต้องการซื้อทองคำโลกในไตรมาส 1 ปีนี้ ติดลบหายไป -70% ! ทั้งที่ความกลัวค่าเงินเฟ้อยังสูงอยู่ เป็นไปได้ไหมว่านักลงทุนกำลังโยกเงินเข้าซื้อ Bitcoin แทน ?!?!

⚠️[BREAKING]⚠️ ความต้องการซื้อทองคำโลกในไตรมาส 1 ปีนี้ ติดลบหายไป -70% ! ทั้งที่ความกลัวค่าเงินเฟ้อยังสูงอยู่ เป็นไปได้ไหมว่านักลงทุนกำลังโยกเงินเข้าซื้อ Bitcoin แทน ?!?!
📌 รายงานจากสภาทองคำโลก (World Gold Council) เผยว่า อุปสงค์หรือความต้องการซื้อทองคำเพื่อการลงทุนของโลกในไตรมาสที่ 1 ปี 2021 ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาถึง -70% !
ความต้องการซื้อทองคำเพื่อการลงทุนของโลกเคยอยู่ที่ 299.1 เมตริกตันเมื่อไตรมาสที่ 1 ปีที่แล้ว แต่กลับร่วงลดลงมาเหลือ 161.5 เมตริกตันในไตรมาส 1 ของปีนี้
ปัจจัยนี้มีส่วนทำให้ราคาทองคำไม่ขยับไปไหนมาเป็นเวลา 3-4 เดือนแล้ว ยังคงติดอยู่ในกรอบแคบๆที่ 1,700 - 1,800 เหรียญต่อออนซ์มาตลอด
📌 ความต้องการซื้อทองคำของนักลงทุนหายไปไหม ? ทั้งที่ความกลัวค่าเงินเฟ้อยังสูงอยู่ ?
เมื่อต้นปีทางแอดเคยได้เขียนบทความสันนิษฐานไว้ว่า ปีนี้อาจเป็นปีที่นักลงทุนหลายรายเทขายทองคำเพื่อโยกเงินเข้าไปซื้อ Bitcoin กันมากขึ้นเพราะ
1️⃣ นักลงทุนยังคงต้องการหลักประกันเพื่อต่อสู้กับค่าเงินเฟ้ออยู่ โดยถึงแม้ Bitcoin อาจจะยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นสินทรัพย์ที่จะมาแทนที่ทองคำในหน้าที่นั้นได้ แต่อัตราการเติบโตของราคาที่ 200% ต่อปี ก็มากเพียงพอที่จะช่วยให้นักลงทุนปิดความเสี่ยงจากค่าเงินเฟ้อได้
2️⃣ นักลงทุนสถาบันหลายฝ่ายไม่อยากเสี่ยงที่จะใช้เงินสดเข้ามาซื้อ Bitcoin โดยตรง แต่ถ้าเป็นการโยกเงินออกจากทองคำมาสู่ Bitcoin จะกลายเป็นการกระจายความเสี่ยงให้พอร์ตรวม มากกว่าการเพิ่มความเสี่ยงในการถือทองคำเพียงอย่างเดียว
📌 Bitcoin จะมาแทนที่ทองคำในฐานะทองคำ 2.0 หรือ Digital Gold ได้จริงหรือไม่ ?
คำถามนี้คงยังไม่มีใครรู้ได้ในเวลานี้ แต่หากดูจากการไหลของเงินในช่วงปีที่ผ่านมา ตลาดกำลังพยายามบอกเราว่านักลงทุนบางส่วนกำลังมีมุมมองเช่นนั้น และต้องการจะทำให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้จริงๆ ทำให้ไม่ควรมีใครคิดว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ซะทีเดียว
📊 ไม่ว่าราคา #ทองคำ หรือ #Bitcoin จะไปในทิศทางใด นักลงทุนก็สามารถเข้ามาติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มราคาอย่างใกล้ชิดไปกับพวกเราได้ผ่านกลุ่ม #LINE ได้



⚠️[BREAKING]⚠️ Tesla กำลังจะประกาศธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency ! อาจจะเป็นฟีเจอร์ให้รถ Tesla ขุด Bitcoin ได้ หรืออาจจะมีเหรียญ Cryto ของตัวเอง !

⚠️[BREAKING]⚠️ Tesla กำลังจะประกาศธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency ! อาจจะเป็นฟีเจอร์ให้รถ Tesla ขุด Bitcoin ได้ หรืออาจจะมีเหรียญ Cryto ของตัวเอง !
#นี่ไม่ใช่ข่าวลือ ! แต่เป็นเรื่องจริงที่ทาง CFO หรือ Master of Coins นาย Zach Kirkhorn ประกาศออกมาในวันประกาศงบของ Tesla ว่า
"นอกจากทาง Tesla ตั้งใจจะถือ Bitcoin เป็นสินทรัพย์ไปเรื่อยๆแล้ว ทางเรามีความสนใจในธุรกิจ Cryptocurrency เป็นอย่างมาก เรากำลังศึกษา Cryptocurrency อย่างใกล้ชิด และพวกเราก็กำลังจะเปิดโปรเจคใหม่ที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency เพิ่มอีกด้วยในเร็วๆนี้ แต่ทางเรายังไม่พร้อมจะประกาศมันออกมาในวันนี้"
เป็นคำสั้นๆที่ถ้าไม่ตั้งใจฟังก็จะผ่านไปเฉยๆแน่ๆ ! แต่ถ้าใครได้ฟังแล้วก็จะต้องตกใจว่าทาง Tesla มีแผนที่จะทำธุรกิจอะไรเกี่ยวกับ Crypto อีกหรือ ?!?!
📌 ทางผู้เชี่ยวชาญหลายฝั่งได้ออกมาให้ความเห็นว่าธุรกิจที่ Tesla ทำได้ น่าจะหนีไม่พ้น 3 อย่างนี้
1️⃣ ทาง Tesla อาจปล่อยฟีเจอร์ให้รถ Tesla สามารถขุด Bitcoin ได้ !
อย่าลืมว่ารถ Tesla นั้นคือคอมพิวเตอร์ติดล้อดีๆนี่เอง และก็มีการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นทำไมรถ Tesla จะไม่สามารถขุด Bitcoin ได้ ?
ทาง Tesla อาจจะพยายามหาทางสร้างรายได้ให้กับเจ้าของรถ Tesla เพิ่มด้วยการปล่อยฟีเจอร์นี้ออกมา
2️⃣ Tesla อาจนำพลังงานส่วนเกินที่ผลิตได้จาก Solar Roof และ Powerwall มาเป็นพลังงานในการขุด Bitcoin
อย่างที่ได้เป็นประเด็นกันมาในตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาว่าทาง Cathie Wood หัวหน้ากองทุน Ark Invest ได้ออกมากล่าวปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า "การขุด Bitcoin นั้นเป็นการทำให้ปัญหาโลกร้อนยิ่งแย่ลง" จริงๆแล้ว Cathie มองว่าการขุด Bitcoin จะเป็นการช่วยเร่งให้โลกเราพัฒนาพลังงานสะอาดขึ้นมาได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น
และต่อมาทาง Elon Musk ก็ออกมาแสดงความเห็นด้วยกับทาง Cathie เป็นไปได้ว่าในเมื่อ Tesla ต้องการจะถือ Bitcoin ไปในระยะยาว ทางบริษัทเองจึงอยากมีส่วนช่วยในการใช้พลังงานสะอาดขุด Bitcoin มากขึ้น และทาง Tesla อาจจะเปิดฟีเจอร์ให้นำพลังงานส่วนเกินที่ผลิตได้จาก Solar Roof และ Powerwall มาเป็นพลังงานในการขุด Bitcoin แทน
3️⃣ Tesla อาจจะมีเหรียญ Cryto เป็นของตัวเอง !
ข้อนี้คงมีความเป็นไปได้น้อยที่สุด แต่ก็เป็นข้อที่ทิ้งออกไปไม่ได้ หลายคนเคยกล่าวกันไว้ว่า Tesla อาจจะทำเหรียญ Crypto ของตัวเองออกมาก็เป็นได้ ! ก็คงต้องลองติดตามกันไป



วันพุธที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2564

⛔️[MUST READ]⛔️ 4 สิ่งที่สำคัญจากการประกาศงบ Tesla เมื่อวานนี้ #ที่สื่อไม่ได้พูดถึง แต่นักลงทุน Tesla ทุกท่านควรทราบไว้

 ⛔️[MUST READ]⛔️ 4 สิ่งที่สำคัญจากการประกาศงบ Tesla เมื่อวานนี้ #ที่สื่อไม่ได้พูดถึง แต่นักลงทุน Tesla ทุกท่านควรทราบไว้



เมื่อวานนี้ Tesla ได้รายงานผลประกอบการณ์ในไตรมาสที่ 1 ไป และประกาศออกมาได้ดีกว่าเป้าที่นักวิเคราะห์คาดไว้มาก (แต่ใครที่ติดตามเพจเรามาอาจไม่แปลกใจ เพราทางเราย้ำไว้ตลอดแล้ว ว่า Tesla จะโตเร็วกว่าเป้า 😅 )
📌 โดยตัวเลขสำคัญที่ทุกท่านอาจจะพอได้ยินมาบ้างแล้วคือ
1️⃣ Tesla ทำกำไรได้ไสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 1.37 หมื่นล้านบาท ในไตรมาสแรกของปี 2021 โตขึ้น 2.6 เท่าจากปีที่ผ่านมา
2️⃣ Tesla มีรายได้เติบโตเกือบ 2 เท่าจากปีที่แล้ว ! โตขึ้น +74% เพราะบริษัทสามารถลดต้นทุนการผลิตรถยนต์ลงได้
3️⃣ Tesla ส่งมอบรถยนต์ในไตรมาส 1 ได้ 184,877 คัน ทำสถิติสูงสุดตลอดการต่อไตรมาส
4️⃣ สรุปรายได้ของ Tesla ในไตรมาสนี้ หากแบ่งตามสัดส่วนธุรกิจจะได้มาจาก
4.1) ธุรกิจรถยนต์ 9,002 ล้านเหรียญสหรัฐ (87%)
4.2) ธุรกิจบริการและอื่น ๆ 893 ล้านเหรียญสหรัฐ (8%)
4.3) ธุรกิจสร้างและจัดเก็บพลังงาน 494 ล้านเหรียญสหรัฐ (5%)
5️⃣ และทาง Tesla ยังได้รายได้จากการขาย Carbon Credit (หรือเครติดการปล่อยมลพิษ) ให้บริษัทอื่นๆอีก 518 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์อีกเช่นเดียวกัน
ในจุดนี้ Tesla จะชอบถูกทุกฝ่ายโจมตีว่ารายได้นี้ไม่ได้เป็นรายได้ที่ได้มาจากการทำธุรกิจจริงๆ ซักวันนึงถ้าบริษัทอื่นๆเริ่มผลิตรถยนต์ EV กันแล้ว รายได้ส่วนนี้คงหายไป ?
แต่ดูจากที่เราเห็นแล้วรายได้ส่วนนี้ของ Tesla ยังคงโตขึ้นเรื่อยๆไม่ได้หายไปไหน และมันยังหมายความว่าบริษัทคู่แข่งอื่นๆไม่สามารถผลิตรถยนต์ EV ออกมาได้เร็วเท่าที่ขู่ไว้จริงๆ จึงยังต้องเข้ามาซื้อ Credit ส่วนนี้ไปจาก Tesla ไปเรื่อยๆ ทำให้เป็นการตอกย้ำว่า Tesla ยังไม่มีคู่แข่งในอนาคตอันใกล้อย่างแน่นอน
6️⃣ และแน่นอนว่า Tesla ยังได้รายได้จาดการขาย #Bitcoin ไปอีก 101 ล้านเหรียญสหรัฐ
ในส่วนนี้ทางเพจได้พูดถึงมาก่อนแล้ว ถึงแม้ว่าสื่ออื่นๆอาจจะโจมตีว่ารายได้ส่วนนี้ไม่ได้มาจากการทำธุรกิจจริงๆอีกเช่นกัน แต่สำหรับแอดแล้วมันแสดงให้เห็นถึงการ #มุมมองในอนาคตของผู้บริหาร Tesla ว่าพวกเขานั้นมองถึงอนาคตอันไกล พวกเขากล้าตัดสินใจ และกล้าที่เปลี่ยนแปลง
และสุดท้ายทาง Tesla ก็จะเป็นเสมือน #เสือติดปีก จากการที่บริษัทจะไม่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่องในการขยายบริษัทอีกต่อไป
--------------------------
📌 อย่างไรก็ตาม ยังมีอีก 4 เรื่องสำคัญที่ทาง Elon Musk ได้พูดไว้ในการประกาศงบ โดยทั้ง 4 ประเด็นนี้ #เป็นสิ่งที่ทำให้แอดต้องตะลึง และยิ่งเชื่อมั่นกับการเติบโตในระยะยาวของ Tesla มาขึ้นไปอีก
แอดยังแปลกใจว่าทำไมยังไม่มีสื่อไหนพูดถึง 4 ประเด็นนี้ แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ เพราะทางเราจะนำมาสรุปให้ทุกท่านทราบเอง
1️⃣ Elon Musk กล่าวว่ารถ Tesla Model Y จะกลายเป็น #รถยนต์ที่ขายดีที่สุดในโลก ภายใน 1-2 ปีนี้ !
เป็นคำสั้นๆที่ Elon พูดออกมา หากว่าไม่ตั้งใจฟังก็จะไม่มีทางได้ยินแน่ๆ แต่ Elon กล่าวแล้วว่าเขามองว่า Model Y ซึ่งเป็น SUV ขนาดเล็กของ Tesla จะกลายเป็นรถยนต์ที่มียอดขายสูงสุดในโลกเมื่อเทียบกับรถยนต์ทุกๆคัน ไม่ใช่แค่เพียงเทียบกับรถยนต์ EV นะครับ แต่กับรถทุกๆคันบนโลกนี้ !
ปัจจุบันรถยนต์ Tesla Model 3 นั้นก็กลายเป็นรถยนต์ EV ที่ขายดีที่สุดในโลกไปแล้ว แต่ยังห่างไกลเมื่อเที่ยบกับรถยนต์น้ำมัน อย่างไรก็ตามการประกาศของ Elon นั้นแปลว่าภายในปีหน้า Model Y นี้จะสามารถขายได้สูงกว่ารถยนต์น้ำมันอย่าง Toyota Corolla ที่ครองแชมป์นี้มาอย่างยาวนานกว่า 1.5 ล้านคันต่อปีได้ !
นั้นหมายความว่า Elon จะต้องมั่นใจกับการขยายการผลิตในโรงงาน Berlin และ Texas ของเขามากๆ เพราะมันเป็นเป้าที่สูงอย่างเหลือเชื่อมากๆจริงๆ
เมื่อปีที่แล้ว Tesla เพิ่งผลิตรถยนต์ได้รวม 5 แสนคันเท่านั้น ภายในปีหน้า Tesla จะผลิตรถยนต์ Model Y อย่างเดียวได้สูงถึง 1.5 ล้านคันเชียวหรือ ?!?!
ไม่ว่าจะจริงหรือไม่... เราก็รู้กันว่า Elon Musk ไม่เคยพลาดเป้าบ่อยนัก และเขาก็ชอบทำให้คนที่ไม่เชื่อในตัวเขาล้มหงายหลังมาหลายรายแล้ว.. ข้อมูลนี้จึงสำคัญมากและไม่ควรมีใคร #BetAgainstElonMusk ครับ
2️⃣ Elon Musk กล่าวว่าในยามที่โลกกำลัง #ประสบปัญหาชิปขาดแคลนทั่วโลก ทาง Tesla ได้เข้ากักตุนชิปเหล่านี้มาเป็นปีๆแล้ว !
เป็นอีกประโยคสั้นๆ ที่ถ้าใครเผลอหลับหรือไปเข้าห้องน้ำก็คงไม่มีทางได้ยินแน่ๆ แต่มันก็เป็นประโยคที่สำคัญมากๆ "Tesla มองเห็นปัญหาชิปล่วงหน้ามาเป็นปีๆแล้ว และได้เข้าติดต่อ Supplier และกักตุนชิปไว้เป็นปริมาณมาก เพื่อไม่ได้ประสบปัญหาในการผลิตรถยนต์"
สำหรับแอดแล้วจุดนี้ได้แสดงให้เห็นถึง #มุมมองในอนาคตอันกว้างไกลของผู้บริหาร Tesla อีกครั้ง ว่าพวกเขามั่นใจว่ารถยนต์ของเขาจะขายออกได้แน่ๆ และเขามองออกถึงปัญหาที่บริษัทรถยนต์อื่นๆยังมองไม่ออก พวกเขาจึงกล้าตัดสินใจที่จะเข้าซื้อชิป Semiconductor มาเผื่อไว้มาเป็นเวลานานแล้ว
การตัดสินใจและบริหารงานระดับนี้คือสิ่งที่แอดเชื่อว่า Tesla จะสามารถแก้ไขปัญหาในอนาคตได้เร็วกว่าบริษัทอื่นๆอย่างแน่นอน เมื่อไหร่ที่โลกเราเกิดเจอกับปัญหาที่ไม่คาดคิด (อย่าลืมว่าแม้แต่ช่วงโควิดระบาดทั่วโลก การเติบโตของ Tesla ก็ไม่โดนกระทบเลยแม้แต่น้อย)
3️⃣ Elon Musk ประกาศว่า Tesla Energy พร้อมแล้วที่จะทำให้ประชาชนทุกคนและบ้านทุกบ้าน #กลายเป็นโรงไฟฟ้าย่อมๆได้
นี่เป็นคำกล่าวที่น่าตื่นเต้นที่สุดใน 4 ข้อ เพราะขนาดธุรกิจพลังงานนั้นเป็นธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกและ Elon ก็ได้ออกมาประกาศว่า Disruption ของธุรกิจโรงไฟฟ้าทั่วโลกครั้งใหญ่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว !
เรื่องนี้ทางเพจได้เขียนบทความอย่างละเอียดไป และได้ปักหมุดไว้บนต้นเพจ ท่านใดสนใจลองเข้าไปอ่านดูได้เลยครับ แต่คร่าวคือ Elon ตั้งคำถาม ทำไมมนุษย์เราจำเป็นจะต้องพึ่งพาพลังงานจากศูนย์กลางอย่างโรงไฟฟ้าด้วย ?
ทำไมพวกเราทุกคนไม่ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์กันเอง ? เพื่อให้เราสามารถนำไฟมาใช้ในบ้าน นำไฟมาชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์
และทำไมเราทุกคนไม่มีแบตเตอรี่ไฟเก็บไว้ในทุกๆบ้าน ? เพื่อให้เมื่อเรายังมีไฟฟ้าส่วนเหลือเราก็ยังสามารถจัดเก็บไว้ได้ หรือนำกลับเข้าไปขายในระบบกลางให้บ้านอื่นๆใช้กันต่อ !
ทำให้ในการประกาศงบครั้งนี้ Elon ออกมาย้ำว่าระบบ Tesla Solar + Powerwall battery ตอนนี้พร้อมแล้วที่จะทำให้ระบบไฟฟ้าทั่วโลกกลายมาเป็นแบบ Decentralized ไม่ขึ้นอยู่กับโรงไฟฟ้า คล้ายๆกับการที่ Cryptocurrency เข้ามาทำให้ระบบการเงินของโลกกำลังจะกลายเป็น Decentralized มากขึ้นและไม่ต้องพึ่งพาคนกลางอีกต่อไป
4️⃣ Elon กล่าวว่าในระยะยาวทุกคนจะจำ Tesla ในฐานะที่เป็นบริษัท Artificial Intelligence (#AI) และบริษัท #Robotic (หุ่นยนต์) มากกว่าการเป็นบริษัทรถยนต์
ข้อนี้อาจจะเป็นข้อที่ยังห่างไกลจากปัจจุบันมากที่สุด แต่ก็สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ถือหุ้น Tesla ได้ไม่น้อย ที่ทาง Elon นั้นตั้งเป้าอย่างจริงจังว่า Tesla จะไม่หยุดที่จะเป็นเพียงแค่การเป็นบริษัทรถยนต์
Elon กล่าวว่าทาง Tesla ได้รวบรวมทีม AI ที่ดีที่สุดในโลกขึ้นมาทีมนึงแล้ว (ความหมายของเขาคือไม่แพ้ทีมที่ Google หรือ Microsoft เลยทีเดียว) และศึกแรกที่ทางทีมนี้จะต้องแก้ไขก็คือการพัฒนาระบบขับรถยนต์อัตโนมัติ (Autonomous Driving Level 5) และศึกที่ 2 คือการสร้าง Dojo หรือ Supercomputer ความเร็วสูงที่จะกลายมาเป็นคอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลกนั้นเอง !
ถ้า Tesla สามารถทำ 2 โครงการนี้สำเร็จ ทางเราเชื่อว่ามูลค่าของบริษัท Tesla ไม่ควรจะน้อยไปกว่า Apple, Google, Microsoft หรือควรมีมูลค่าสูงกว่าปัจจุบันอย่างน้อย 4-5 เท่าอย่างแน่นอน